Blog - หางาน - แคปชั่น - ดูดวง - ไลฟ์สไตล์ เข้าสู่ระบบ ฝากประวัติ
 
งานราชการ หางาน สมัครงาน ฝากประวัติ เข้าระบบ ค้นประวัติ ประกาศงาน อัตราค่าโฆษณา


บริษัทเข้าสู่ระบบ
Username : 
Password : 
ประเภท : 

ข้อมูลที่ปรากฎเป็น "สมาชิกเท่านั้น" ข้อมูลจะเปิดเผยเฉพาะสมาชิกเท่านั้น สำหรับสมาชิกต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน หรือ
ต้องการสมัครสมาชิกกรุณาโทร 02-085-9900 , 088-676-5233 หรือ ดูวิธีการสมัครและอัตราค่าสมาชิกได้ที่นี่

เก็บประวัติไว้ในระบบ  |  พิมพ์

ข้อมูลส่วนตัว
  ปรับปรุงข้อมูลเมื่อ :   25 พฤษภาคม 2554
  หางานครั้งสุดท้ายเมื่อ :   25 พฤษภาคม 2554
  ชื่อ - นามสกุล :   สมาชิกเท่านั้น
  วันเกิด :   10 กรกฎาคม 2526
  อายุ :   42 ปี
  ส่วนสูง :   ส่วนสูง : 155 ซม. น้ำหนัก : 55 กิโลกรัม
  เพศ :   หญิง
  สถานะสมรส :   โสด
  สัญชาติ :   ไทย
  ศาสนา :   พุทธ
  สถานะภาพทางทหาร :   -

ข้อมูลในการติดต่อ
  อีเมล์ :   สมาชิกเท่านั้น
  ที่อยู่ :  สมาชิกเท่านั้น
  เขต (เฉพาะกรุงเทพ) :  ดอนเมือง, หลักสี่
  จังหวัด :  กรุงเทพมหานคร
  รหัสไปรษณีย์ :   สมาชิกเท่านั้น
  โทรศัพท์ :   สมาชิกเท่านั้น
  มือถือ :   สมาชิกเท่านั้น
  Fax :   สมาชิกเท่านั้น

ความพร้อมในการเริ่มงาน
  พร้อมทำงาน :   เริ่มทำงานได้เลย
  สถานะการทำงาน :   มีงานทำแล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนงาน

ประวัติการศึกษา
  ปัจจุบัน :   จบการศึกษาแล้วในปี พศ. 2548
 1. การศึกษาสูงสุด
  ระดับการศึกษา :   ปริญญาตรี
  ชื่อสถานศึกษา :   มหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิตย์
  วุฒิการศึกษา :   นิเทศศาสตร์บัณฑิต
  สาขาวิชา :   วารสารศาสตร์
  เกรดเฉลี่ย (GPA.) :   2.86
 2 การศึกษาก่อนหน้า
  ระดับการศึกษา :   มัธยมศึกษาต้น-ปลาย
  ชื่อสถานศึกษา :   สตูลวิทยา
  วุฒิการศึกษา :   ม.6
  สาขาวิชา :   วิทย์-คณิต
  เกรดเฉลี่ย (GPA.) :   -

ตำแหน่งงานที่ท่านสนใจ
สาขาวิชาที่ได้ศึกษามา :   นิเทศศาสตร์/สื่อสารมวลชน
  ประเภทงานที่สนใจ :   1. นักข่าว/บรรณาธิการ/นักเขียน/แปลภาษา
  2. งานโฆษณา/Creative/ช่างภาพ
  3. ประชาสัมพันธ์/บริการลูกค้า
  ตำแหน่งงานที่สนใจ :   1. ผู้สื่อข่าว
  2. นักเขียน
  3. ประชาสัมพันธ์
  ลักษณะงานที่ต้องการ :     งานนอกเวลา (Part Time)
  งานอิสระ (Freelance)
  ระดับเงินเดือนที่ต้องการ :   1000 บาท

ประวัติการทำงาน
  ประสบการณ์ทั้งหมด :   4 ปี
  1. ประสบการณ์ทำงาน
  เริ่มจาก :   มกราคม 2550  ถึง  ธันวาคม 2553
  บริษัท :   สมาชิกเท่านั้น
  ที่อยู่บริษัท :   จตุจักร กทมฯ
  ตำแหน่ง :   ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ พาณิชย์SMEs
  เงินเดือน :   สมาชิกเท่านั้น   บาท
  ลักษณะงานที่ทำ :   รับผิดชอบงานด้านข่าวการค้า การลงทุน การส่งออก และสัมภาษณ์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ประกอบเซคชั่น สัมภาษณ์พิเศษ พร้อมถ่ายภาพประกอบตามคอนเซ็ปท์ ทุกวันศุกร์
  2. ประสบการณ์ทำงาน
  เริ่มจาก :   ธันวาคม 2553  ถึง พฤษภาคม 2554
  บริษัท :   สมาชิกเท่านั้น
  ที่อยู่บริษัท :   ลาดพร้าว 115
  ตำแหน่ง :   ผู้สื่อข่าเศรษฐกิจ การเงิน ประกัน เอสเอ็มอี
  เงินเดือน :   สมาชิกเท่านั้น   บาท
  ลักษณะงานที่ทำ :   รับผิดชอบงานด้านบทความ บทวิเคราะห์การค้า การลงทุน การส่งออก การลงทุน(เศรษฐกิจรวม) ข่าวประกัน และสัมภาษณ์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ประกอบเซคชั่น เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ พร้อมถ่ายภาพประกอบตามคอนเซ็ปท์

ความสามารถ
ความสามารถทางภาษา
  ภาษา พูด อ่าน เขียน
1. ภาษาไทย ดี ดี ดี
2. ภาษาอังกฤษ พอใช้ พอใช้ พอใช้
ความสามารถอื่นๆ
  พิมพ์ดีด :   ภาษาไทย 40 คำ/นาที        ภาษาอังกฤษ 30 คำ/นาที
  ความสามารถในการขับขี่ :   รถยนต์ ,
  ยานพาหนะส่วนตัว :   รถจักรยานยนต์ ,
  ความสามารถพิเศษอื่นๆ :   ใช้อินเตอร์เน็ท ตกแต่งภาพเป็นพื้นฐาน และถ่ายรูปตามความเหมาะสมครบองค์ประกอบได้

โครงการ / ผลงาน / เกียรติประวัติ / บุคคลอ้างอิง
  โครงการ/ผลงาน :   ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553 00:00:38 น.
http://www.ryt9.com/s/bmnd/986781

''ป้อนคำหวาน
'แบรนด์ขนมไทยสไตล์โมเดิร์น

ธุรกิจขนมหวานยุคบุกเบิกที่ก่อตั้งขึ้นโดยคุณแม่ อย่างขนมบ้านครูติ๋ว ตำรับเมืองเพชร ที่คอลัมน์เอสเอ็มอี นสพ.บ้านเมืองได้มีโอกาสนำเสนอมาแล้ว มาวันนี้ธุรกิจนี้เติบโตจนมาถึงยุคที่ 2 โดยมีบุตรสาวเข้ามารับช่วง ที่สำคัญ "ป้อนคำหวาน" ถือเป็นอีกตัวอย่างของความสำเร็จที่สามารถสร้างคาแร็กเตอร์ โดยมีธุรกิจครอบครัวช่วยสนับสนุนในแบบของคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญเจ้าของธุรกิจยังยืนยันว่า 10 เดือนของการเริ่มต้น ไปได้สวย...

แพร ลวณะมาลย์ แม่ค้าขนมหน้าหวานหน้าใหม่ ทายาทธุรกิจขนมไทยเมืองเพชร ครูติ๋ว เล่าถึงธุรกิจไม้สอง ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจขนมของครอบครัวว่า ร้านขนมป้อนคำหวานเกิดขึ้นมาด้วยใจรัก ส่วนที่มาของ "ป้อนคำหวาน" นั้นมาจากเดิมที่ครอบครัวทำขนมหวานอยู่แล้วด้วยความตั้งใจให้ทุกคนได้ชิม ดังนั้นการใช้คำว่าป้อน คือการให้ชิมอย่างสุภาพเหมือนให้คนที่เรารักได้ลองชิม และเติมบรรยากาศของความหวานได้

จุดแข็งของเราอยู่ที่ตัวสินค้าซึ่งยอมรับว่าขนมของเราอร่อย นอกจากนั้นการที่เรามีฐานลูกค้าเดิมอยู่มากพอสมควร เมื่อมีโอกาสเข้ามาช่วยกิจการของคุณแม่ คือขนมบ้านครูติ๋ว หากจะทำแบบเดิมๆ เหมือนที่คุณแม่ทำมาตั้งแต่ต้นก็คงไม่สนุก จึงคิดลองหาอะไรที่สามารถต่อยอดหรือทำเพิ่มเติมขึ้นมาได้ เพราะแต่เดิมนั้นขนมของคุณแม่ยังไม่รู้จักในวงกว้างมากนัก จุดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การสร้างแบรนด์สินค้า โดยใช้คำว่า "ป้อนคำหวาน" ก็คงจะไม่ผิดนัก ส่วนเรื่องดีไซน์แพ็กเกจนั้น ถือเป็นจุดเด่นของเรา ซึ่งเราอยากให้ลงในกลุ่มวัยรุ่น เพราะขนมไทยกับวัยรุ่นค่อนข้างจะไปด้วยกันยาก การเพิ่มในส่วนของดีไซน์รูปแบบร้านที่สดใส น่ารัก ร่วมสมัยน่าจะช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ดี

เดิมทีป้อนคำหวานเปิดตัวครั้งแรกคือที่เพลินวาน จุดนี้เรามองว่า เพลินวานมีศักยภาพและจะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของหัวหินได้ ซึ่งการมองเรื่องทำเลที่มีพื้นที่ให้เช่าในเมื่อเรากำลังจะสร้าง แบรนด์และมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งของเพลินวาน ที่สำคัญเพลินวานค่อนข้างเป็นที่รู้จัก ทำให้เราโตหรือเป็นที่รู้จักไปพร้อมกับเพลินวาน ดังนั้นตลอดระยะเวลา 10 เดือนของการเปิดร้านตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว หากมองถึงความสำเร็จอาจพูดได้เลยว่าเราเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว ซึ่งเราตั้งใจให้ป้อนคำหวานเป็นอีกจุดขายของหัวหินและเพลินวาน

"ป้อนคำหวาน" ถือเป็นอีกลูกค้าของครูติ๋ว แต่ที่ทำให้เราต่างคือ การพัฒนารูปแบบให้ร่วมสมัย รวมถึงการคิดสูตรใหม่ๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะของป้อนคำหวานและไม่มีขายหรือจำหน่ายที่ไหน โดยเฉพาะสูตรเพื่อสุขภาพ รวมถึงขนมชนิดอื่นที่หลากหลายนอกเหนือจากอาลัว ส่วนขนมของคุณแม่ก็ยังรักษาตลาดไว้ และอาจมีลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น สำหรับขนมที่พัฒนา จุดนี้เรายังไม่ลืมใส่ดีไซน์ให้แตกต่างจากขนมไทยดั้งเดิม โดยเพาะอาลัว ที่ถือเป็นหมัดเด็ดของขนมบ้านครูติ๋ว จุดนี้เราพัฒนาขึ้นโดยนำคาแร็กเตอร์ของขนมไทย 2 ชนิด คือ อาลัวและจ่ามงกุฎเข้ามาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว กลายเป็นอาลัวจ่ามงกุฎ ซึ่งยืนยันได้ว่ามีที่ป้อนคำหวานเพียงที่เดียวเท่านั้น

สำหรับอนาคตนั้นมีแผนที่จะขยายเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมว่า ด้วยธุรกิจขนมนั้นต้องใช้ความเอาใจใส่ ต้องควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน การพัฒนาคนหรือมีบุคลากรที่เข้าใจจุดนี้ถือว่าสำคัญ ดังนั้นหากเราขยายให้โตเร็วแต่สินค้าของเราขาดคุณภาพ หากทำไม่ได้สุดท้ายลูกค้าก็ต้องผิดหวังเราจึงไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้น แต่ในทางกลับกันการเติบโตอย่างยั่งยืน น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องของธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่โดยเฉพาะเอสเอ็มอีไล่ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่

"สิ่งที่ทำให้เรามองว่า ป้อนคำหวานเดินมาถูกทางคือ ลูกค้าเชื่อมั่นในรสชาติของขนมเราอยู่แล้ว ด้วยคุณภาพที่พิถีพิถัน ป้อนคำหวานจึงเป็นผลพลอยได้จากขนมของคุณแม่ และด้วยพื้นฐานที่เข้มแข็งทำให้การต่อยอดขนมไทยสไลต์โมเดิร์นสามารถก้าวผ่านความไม่มั่นใจ เราแทบไม่กังวลว่าลูกค้าจะยอมรับในป้อนคำหวานได้มั้ย และทุกวันนี้รู้สึกดีกับตัวเองและไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใคร."

สำหรับรุ่นคุณแม่ ที่มีบริการจัดส่งขนทางรถทัวร์ จุดนี้เรายังไม่ทิ้งและเรายังให้บริการจัดส่งผ่านทั้งรถตู้หรือส่งทางไปรษณีย์ โดยขณะนี้เรามีขนม 2 กลุ่มหลัก ทั้งขนมสดที่ไม่ผสมสารกันเสียและขนมแห้งกว่า 14 ชนิดด้วยกัน ส่วนราคามีตั้งแต่ 35-65 บาท และมีแพ็กเกจปิ่นโตที่เป็นชุดของขวัญ ราคา 150 บาท ส่วนช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ยังมีขนมน่ารักๆ ออกมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ก็อยากให้ติดตามความเคลื่อนไหวของขนมไทยสไตล์ ป้อนคำหวาน ได้ที่ www.ponkumwan.com

สนใจโทร.08-9688-4053



งานชิ้นที่ 2

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2551 09:50:07 น.
http://www.ryt9.com/s/bmnd/675026

ผ่อนคลายแบบสปาไทย
สมุนไพร “สบายอารมณ์”

ปัจจุบันธุรกิจ “โฮมสปา” แบบไทยๆ ถูกพัฒนาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ที่นิยมผ่อนคลาย แบบที่ไม่ต้องเดินทางเข้าไปในร้านสปาให้เสียเวลา วันนี้คอลัมน์เอสเอ็มอี มีหนึ่งธุรกิจ โฮมสปา สไตล์ไทย ที่กำลังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในกลุ่มคนยุคใหม่ “สบายอารมณ์” เพิ่มทางเลือกในยุคเศรษฐกิจรัดตัว

คุณศศธรณ์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการทางการตลาด บริษัท ออเทนติคไทยสปา จำกัด เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความผ่อนคลาย ภายใต้แบรนด์ “สบายอารมณ์ เออร์เบิน เวลล์เนส” สปาสไตล์ไทยที่ออกมาเจาะตลาดกลุ่มคนที่รักในกลิ่น และที่สำคัญยังช่วยผ่อนคลาย ด้วยคุณสมบัติพิเศษแห่งสมุนไพรไทย เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเครื่องหอมไทยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้จากสภาพเศรษฐกิจที่เร่งรีบ ส่งผลให้คนที่อยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับความเครียด ขาดชีวิตชีวา เหนื่อยล้า หงุดหงิดง่าย บางครั้งถึงขั้นนอนหลับยาก จุดนี้ถือเป็นกลยุทธ์หลักของ “สบายอารมณ์” เข้ามาตอบโจทย์สินค้าที่มาจากธรรมชาติ

“จุดยืนของแบรนด์สบายอารมณ์ เกิดขึ้นจากความชัดเจนจากกลิ่นหอมที่มาจากธรรมชาติ เป็นตัวกลางในการบำบัดความเครียด ช่วยให้ผ่อนคลายได้ในไม่กี่นาที จากน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพร ดอกไม้ และผลไม้ต่างๆ เข้ามาผสมผสานไม่ว่าจะเป็น มะลิ กระดังงา จำปา มะกรูด ตะไคร้ สะระแหน่ พริกไทยดำ ขิง มะนาว โหระพา รวมกว่า 25 ชนิด ที่มีคุณสมบัติช่วยส่งผลทางบวกต่ออารมณ์และจิตใจ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนกรุงยุคใหม่พกพาความสุขแบบง่ายๆ ติดตัว “สบายอารมณ์ เออร์เบิน เวลล์เนส” เน้นการพัฒนาจากศาสตร์สุคนธบำบัดที่มีมาแต่โบราณ โดยใช้น้ำมันหอมระเหยเป็นสื่อสำคัญ”

สำหรับผลิตภัณฑ์ มีให้เลือกหลากหลายกว่า 14 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้ 5 คอลเลคชั่น ไม่ว่าจะเป็น Sleep Tight (สลีพไทด์) เพื่อการนอนหลับสบาย Feel Good (ฟีลล์กูด) เพื่อความสบายใจ คลายเครียด Calm Down (คาล์มดาวน์) เพื่อความสงบ สร้างสมดุลทางอารมณ์ Clear Mind (เคลียร์มายด์) เพื่อความมีสมาธิ และ Get Lively (เก็ตไลฟ์ลี่) เพื่อความมีชีวิตชีวา ซึ่ง 5 คอลเลคชั่นผ่านการคัดสรรให้บำบัดเพื่อความผ่อนคลายได้อย่าสางแท้จริง

ในส่วนของจุดแข็งของสบายอารมณ์ ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น แตกต่างจากสินค้าอื่นๆ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีแบรนด์ไหนที่ออกไลน์ผลิตภัณฑ์คลายเครียดในลักษณะเช่นนี้ เรามีทั้งลูกกลิ้งทาขมับ ลูกกลิ้งนวดท้ายทอยและไหล่ สเปรย์น้ำหอมปรับบรรยากาศ ปาล์ม รวมถึงน้ำมันนวดตัว นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญถึงบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย สะดวกพกพา และที่สำคัญ เรายังใช้ชื่อที่สื่อถึงตัวตนและจุดเด่นของสินค้า เรียกว่า ชื่อบอกจุดขายได้ในตัวของมันเอง

เมื่อพูดถึงช่องทางการจำหน่ายแล้ว หลายท่านอาจยังไม่รู้จักแบรนด์สบายอารมณ์เท่าใดนัก ทำให้เราคิดว่าต้องเร่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ถึงแม้ที่ผ่านมาเราจะได้รับการยอมรับจากกลุ่มลุกค้า ซึ่งขณะนี้เราจำหน่าย สบายอารมณ์ เพียงแห่งเดียว ในร้านบู๊ทส์ (Boots) ถึงมีหลายกระแสถามอยู่เสมอว่าทำไมถึงไม่เพิ่มหรือกระจายไปยังร้านสปา ซึ่งตนได้ให้คำตอบว่า ถึงแม้จะจำหน่ายที่ร้านบู๊ทส์ เพียงอย่างเดียว แต่ด้วย บู๊ทส์ ถือเป็นศูนย์กระจายสินค้ากว่า 100 สาขาทั่วประเทศ สำหรับปีนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนด้านการตลาดโดยเราจะเน้นให้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ 50-50% และที่สำคัญต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและแข็งแกร่งกว่านี้

“สบายอารมณ์ เออร์เบิน เวลล์เนส” จะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องเผชิญความเครียดในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี หลังประสบความสำเร็จจากการขายในร้านบู๊ทส์ (Boots) กว่า 100 สาขาและส่งออกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เพราะจุดแข็งที่เน้นด้านความผ่อนคลายสไตล์ไทยแท้ และส่วนผสมทั้งหมดก็มาจากธรรมชาติในระดับ 85-99.9% ที่สำคัญเรายังขายในราคาที่สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายๆ ไม่สูงและไม่ต่ำ แต่พร้อมด้วยคุณภาพ เทียบชั้นระดับโรงแรม 5 ดาว

“เชื่อว่าความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และการผ่อนคลายของผู้บริโภค เป็นเทรนด์ที่น่าจะยังได้รับความนิยม และมีทีท่าจะสูงขึ้น เรียกว่าตลาดกลุ่มนี้ไม่ตันอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีตัวเลือกเกิดขึ้นจำนวนมากแต่เชื่อว่าด้วยคุณภาพที่เราใส่ใจในรายละเอียดของสินค้าแล้ว สบายอารมณ์ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่เข้าถึงไลฟ์ไสตล์ชีวิตคนกรุง ด้วยคุณภาพที่ถึงแม้กระแสเศรษฐกิจจะกระทบแค่ไหน แต่คุณภาพก็ยังเป็นอันดับหนึ่งที่เราใส่ใจเสมอมา” คุณศศธรณ์ เจ้าของธุรกิจแสดงทัศนะด้านการธุรกิจที่กำลังโตแบบก้าวกระโดดอย่างสวยงาม


ผลงานสามารถติดต่อรายละเอียดหฟากต้องการเพิ่มเติม
  บุคคลอ้างอิง :   สมาชิกเท่านั้น

Power By www.thaieasyjob.com

เก็บประวัติไว้ในระบบ  |  พิมพ์







© copyright 2004-2025 All right reserved. Contact us : webmaster@thaieasyjob.com | ข้อตกลงการใช้บริการ