Blog - หางาน - แคปชั่น - ดูดวง - ไลฟ์สไตล์ | เข้าสู่ระบบ ฝากประวัติ |
งานราชการ | หางาน สมัครงาน | ฝากประวัติ | เข้าระบบ | ค้นประวัติ | ประกาศงาน | อัตราค่าโฆษณา |
|
ข้อมูลที่ปรากฎเป็น "สมาชิกเท่านั้น" ข้อมูลจะเปิดเผยเฉพาะสมาชิกเท่านั้น สำหรับสมาชิกต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน หรือ
ต้องการสมัครสมาชิกกรุณาโทร 02-085-9900 , 088-676-5233 หรือ ดูวิธีการสมัครและอัตราค่าสมาชิกได้ที่นี่ |
เก็บประวัติไว้ในระบบ | พิมพ์ |
ข้อมูลส่วนตัว |
ปรับปรุงข้อมูลเมื่อ : | 26 มิถุนายน 2550 | |
หางานครั้งสุดท้ายเมื่อ : | 26 มิถุนายน 2550 | |
ชื่อ - นามสกุล : | สมาชิกเท่านั้น | |
วันเกิด : | 14 พฤศจิกายน 2523 | |
อายุ : | 45 ปี | |
ส่วนสูง : | ส่วนสูง : 171 ซม. น้ำหนัก : 52 กิโลกรัม | |
เพศ : | หญิง | |
สถานะสมรส : | โสด | |
สัญชาติ : | ไทย | |
ศาสนา : | พุทธ |
ข้อมูลในการติดต่อ |
อีเมล์ : | สมาชิกเท่านั้น |
ที่อยู่ : | สมาชิกเท่านั้น |
จังหวัด : | กรุงเทพมหานคร |
รหัสไปรษณีย์ : | สมาชิกเท่านั้น |
โทรศัพท์ : | สมาชิกเท่านั้น |
มือถือ : | สมาชิกเท่านั้น |
Fax : | สมาชิกเท่านั้น |
ประวัติการศึกษา |
ปัจจุบัน : | จบการศึกษาแล้วในปี พศ. 2547 |
1. การศึกษาสูงสุด | |
ระดับการศึกษา : | ปริญญาตรี |
ชื่อสถานศึกษา : | มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรธรรมราช |
วุฒิการศึกษา : | ศิลปศาสตร์ ดปรแกรมวิชาเอกนิเทศศาสตร์ |
สาขาวิชา : | วารสารศาสตร์ |
เกรดเฉลี่ย (GPA.) : | 3.08 |
ตำแหน่งงานที่ท่านสนใจ |
สาขาวิชาที่ได้ศึกษามา : | นิเทศศาสตร์/สื่อสารมวลชน |
ประเภทงานที่สนใจ : | 1. นักข่าว/บรรณาธิการ/นักเขียน/แปลภาษา 2. งานโฆษณา/Creative/ช่างภาพ 3. ประชาสัมพันธ์/บริการลูกค้า |
ตำแหน่งงานที่สนใจ : | 1. นักข่าว 2. ประชาสัมพันธ์ 3. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ |
ลักษณะงานที่ต้องการ : | งานประจำ (Full Time) |
ระดับเงินเดือนที่ต้องการ : | 13000 บาท |
ประวัติการทำงาน |
ประสบการณ์ทั้งหมด : | 3 ปี |
1. ประสบการณ์ทำงาน | |
เริ่มจาก : | กุมภาพันธ์ 2547 ถึง ธันวาคม 2549 |
บริษัท : | สมาชิกเท่านั้น |
ที่อยู่บริษัท : | 98/3-10 ชั้น5 บ้านพระอาทิตย์ ถนน พระอาทิตย์แขวง ชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 |
ตำแหน่ง : | ผู้สื่อข่าวบันเทิง |
เงินเดือน : | สมาชิกเท่านั้น บาท |
ลักษณะงานที่ทำ : | รับผิดชอบสายงานที่เกี่ยวกับในวงการบันเทิง หน้าที่หลัก ออกทำข่าวนอกสถานที่รับผิดชอบในส่วนของการตามข่าวหน้าหนึ่ง สกู๊ป คอลัมน์ ข่าวรายวันตามที่ได้รับมอบหมาย พร้อมๆกับการตื่นตัวในการติดตามประเด็นข่าวทุกเวลาเพื่อไม่ให้ตกข่าว |
ความสามารถ |
ความสามารถทางภาษา | |||
ภาษา | พูด | อ่าน | เขียน |
1. ภาษาไทย | พอใช้ | พอใช้ | พอใช้ |
2. ภาษาอังกฤษ | พอใช้ | พอใช้ | พอใช้ |
ความสามารถอื่นๆ | |||
พิมพ์ดีด : | ภาษาไทย 30 คำ/นาที ภาษาอังกฤษ 25 คำ/นาที | ||
ความสามารถพิเศษอื่นๆ : | สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์เวิร์ด โฟโตช็อบ เพจเมกเกอร์ |
โครงการ / ผลงาน / เกียรติประวัติ / บุคคลอ้างอิง |
โครงการ/ผลงาน : | ดี - เหลว" บันเทิงไทย "ปีหมา"(1) (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง) (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง) เป็นอีกปีหนึ่งที่ถือได้ว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในแวดวงของวงการบันเทิงบ้านเราสำหรับปีหมาดุ "บันเทิง ออนไลน์" ขอถือโอกาสช่วงเวลาของ ปี พ.ศ.2550 ที่กำลังจะมาเยือนสรุปความเป็น "ที่สุด" ในแต่ละด้านและแขนงทั้งที่เป็น "ด้านดี" และ "ด้านเหลว" ของรอบปี พ.ศ.2549 ที่กำลังจะจากไป ลองมาดูกันว่าจะตรงใจกับความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของท่านผู้อ่านมากน้อยเพียงใด ... ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ ปีนี้มีหนังไทยหลายเรื่องทีเดียวที่อยู่ในข่ายที่ว่า แต่หลังจากพิจารณา "ภาพ(โดย)รวม" แล้ว บันเทิง ออนไลน์ ขอยกตำแหน่งภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบปีให้กับหนังอนิเมชั่น 3 มิติต้นทุนสูงอย่าง ก้านกล้วย ที่ถึงแม้จะมีทีมงานเป็นชาวต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ความตั้งใจกลั่นผลงานของค่าย "กันตนา" ให้ออกมาเป็นช้างก้านกล้วยก็ดีเยี่ยม หนังได้รับผลตอบรับที่สุดยอดทั้งในเรื่องคำชมจากตัวนักวิจารณ์เองและจากผู้ชมทั่วๆ ไป รวมไปถึงเรื่องรายได้ รางวัลจากต่างประเทศ และความติดตาของแบรนด์ก้านกล้วยที่นอกจากจะเป็นตุ๊กตาแล้ว ยังแทรกซึมไปถึงสินค้าหลากหลายประเภท ลูกเล็กเด็กแดงจดจำ ก้านกล้วย, ชบาแก้ว และตัวละครอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ก้านกล้วย ยังเป็นหนึ่งในการนำประวัติศาสตร์ของประเทศมาผูกร้อยโยงเรื่องได้อย่างงดงาม ถือเป็นการสื่อสารเรื่องราวหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศไทยโดยมีช้างการ์ตูนตัวสีฟ้าๆ ทำหน้าที่เป็นดั่งทูตส่งต่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ร่วมรับรู้ ซึ่งถ้าดูกันตามนี้แล้ว ก้านกล้วย น่าจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการกรุยทางให้ภาพยนตร์อนิเมชั่นไทยเรื่องอื่นๆ ได้เห็นช่องทางในการเดินของตัวเองบ้าง ภาพยนตร์ที่ประสบความล้มเหลว ตำแหน่งนี้บันเทิงออนไลน์ ขอยกให้กับหนังไทยจากค่าย จีทีเอช เรื่อง "หมากเตะ (รีเทิร์น)" ทั้งชื่อของผู้กำกับและชื่อเสียงของค่ายอย่าง "จีทีเอช" ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในการการันตีถึงคุณภาพของหนังระดับหนึ่งแล้ว หลายคนคงไม่คาดคิดว่าหนังเรื่อง "หมากเตะ" ไม่น่าจะมาอยู่ในตำแหน่งที่ว่านี้ได้ ซึ่งหากจะว่ากันตามเนื้อผ้าโดยพิจารณาจากเนื้องานที่ออกมาเมื่อเปรียบเทียบกับหนังไทยเรื่องอื่นหลายต่อหลายที่แย่กว่า "หมากเตะฯ" แล้วก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็เพราะความพร้อมที่ว่า ทั้งเงินทุน ทั้งชื่อเสียงของค่าย การสร้าง งบโปรโมต หรือจะเป็นประเภทของหนังที่เป็นคอมเมดี้(แถมยังโยงไปกับเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศ "ลาว" และเรื่องของ "ฟุตบอล") ซึ่งน่าจะทำเงิน "สูง" ได้อย่างง่ายๆ นี้เองที่กลายเป็นบทลงโทษต่อหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยายเมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องจริงที่ว่า "หมากเตะ (รีเทิร์น)" เป็นหนังซึ่งน้อยคนเกือบจะไม่รู้ว่า "เข้า" และ "ออก" จากโรงฯ เมื่อไหร่? สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้หมากเตะฯ ต้องมีสภาพเป็นเช่นนี้ก็คงจะเป็นเพราะหนังมีฉากการเล่นมุกตลกที่ทำให้ทางการลาวเองรู้สึกว่าคนในประเทศของตนเกินเลยจาก "คนซื่อ" เป็น "คนเซ่อ" กระทั่งต้องยื่นเรื่องท้วงติงเป็นผลทำให้หนังไม่สามารถเข้าฉายได้ตามที่กำหนดเบื้องต้น ซึ่งก็คงจะไปโทษใครไม่ได้เลย นอกเสียจาก "รสนิยมที่ไม่ตรงกัน" ... ศิลปินกลุ่มประสบความสำเร็จ อาจจะแปลกไปจากผลโพล ผลโหวต ผลการจัดอันดับของที่อื่นๆ พอสมควร หากบันเทิง ออนไลน์ จะขอยกรางวัลนี้ให้กับ 3 หนุ่ม วง ไทเทนี่ยม และ "โปงลางสะออน" ในขณะที่นักร้องกลุ่มแนวเพลงอื่นๆ (โดยเฉพาะวงร็อก)ที่น่าจะรับตำแหน่งนี้ไร้ผลงาน หรือมีออกมาค่อนข้างจะเงียบๆ ปรากฏว่า ปี พ.ศ. 2549 นี้วงดนตรีพื้นบ้านอีสานอย่าง "โปงลางสะออน" กลับสร้างสถิติยอดขายวีซีดีคอนเสิร์ตของพวกเขาด้วยจำนวนตัวเลขถึง 7 หลักไปแบบสบายๆ ชนิดบรรดานักร้องที่ถูกยกย่องว่าเป็น "ซูเปอร์สตาร์" หลายคนไม่กล้าคิด เช่นเดียวกับหนุ่มฮิปฮอพ 3 คนในนามของ "ไทเทเนี่ยม" เพราะหลังจากที่กระพือกระแสให้ดนตรีฮิปฮอพครุกรุ่นและเตรียมประทุมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน มาปีนี้ไทเทเนี่ยมก็ทำให้ลาวาปริมาณมหาศาลพุ่งทะลักขึ้นมาร้อนแรงบนพื้นดินได้สำเร็จ กระแสดนตรีฮิปฮอพแผ่ขยายขจรขจาย มีสาวกแฟนเพลงเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทั้งเพศชาย เพศหญิง เท่านั้นยังไม่พอ ไทเทเนี่ยม ยังมีพลังงานล้นหลามมากกว่ากลุ่มศิลปินรุ่นราวคราวเดียวกัน สังเกตได้จากการมีชื่อไปร่วมรับเชิญในอัลบั้มต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเพลงป็อป ร็อก อาร์แอนบี ไปจนกระทั่งถึงการมีส่วนร่วมกับศิลปินเพลงรัก "บอย โกสิยพงศ์" และศิลปินสาวอินเตอร์ "ทาทา ยัง" นอกจากนั้น ไทเทเนี่ยมก็พิสูจน์ความบ้าพลังของพวกเขาด้วยการไปร่วมแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ มากมายทั้งในและนอกประเทศ ถือว่าในปีที่ผ่านมานี้ เป็นปีทองของศิลปินวงไทเทเนี่ยมจริงๆ ศิลปินกลุ่มที่ประสบความล้มเหลว นับตั้งแต่สี่สาว "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ค้นพบทางสว่างของพวกเธอ ปรากฏว่าคนฟังเพลงบ้านเราก็พบแต่ทางมืดทันที เมื่อสี่สาวไส้แห้งยึดถือแต่การขายเรือนร่างอย่างแน่วแน่มาตลอดทุกชุด โดยที่ไม่ได้จะใส่ใจจะพัฒนาเรื่องเพลง เนื่องจากเพลงที่ออกมาโดยเฉพาะระยะหลังจะมีเสียงร้องที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ภาคดนตรีที่มั่วและรกเละเทะ ในขณะที่เสื้อผ้าพวกเธอจะยิ่งเปิดเปลือยมากขึ้นทุกทีๆ การออกมาร้องเพลงคล้ายการมายืนบ่น แหกปากเปิดผ้าไปวันๆ จากความพัฒนาลงไปเรื่อยๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับงานใน "ชุดแรก" ของพวกเธอ) ทำให้บันเทิง ออนไลน์ตัดสินใจยกให้ 4 สาว "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ให้เป็นกลุ่มสิลปินที่ประสบความล้มเหลวในรอบปีทั้งในด้านคำวิจารณ์ ภาพลักษณ์และผลงานที่ออกมา แม้จะยังมียอดขายที่ยัง "พอดูได้" อยู่ก็ตาม ศิลปินเดี่ยวประสบความสำเร็จ แม้อาจจะทำความหมั่นไส้และค้านความรู้สึกของใครหลายๆ คน แต่บันเทิง ออนไลน์ก็จำต้องขอยกให้กับนักร้องหญิง ทาทา ยัง หลังจากที่อดีตเจ้าของฉายาสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ได้เริ่มพาตัวเองเข้าสู่วงการเพลง เธอก็มีพัฒนาการในตัวเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งในเรื่องเสียงร้องที่ถือว่าเธอสอบผ่านตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และในเรื่องของภาพภายนอกของเธอเอง ที่ถ้ามีใครนำภาพในอดีตมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันของเธอ จะพบว่าธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างชนิดที่ใครไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมาสักสามปี คงจะจดจำเธอไม่ได้อย่างแน่นอน ความตั้งใจที่เธอกล้าออกมาประกาศว่าตัวเองอยากโก อินเตอร์ค่อยๆ เริ่มเห็นเค้าลางใกล้ความจริงมากขึ้นๆ ทุกที โดยเฉพาะอัลบั้มเพลงสากลสองชุดของเธอ ที่เรียกว่าสร้างภาพความเป็นอินเตอร์ได้ในระดับดี และหลังจากที่เธอเปลี่ยนแปลงสรีระตัวเองด้วยเวทมนต์ของมีดหมอเธอก็เข้าใกล้ความฝันมากขึ้นทุกทีๆ รอบปีที่ผ่านมา "ทาทา ยัง" เธอมีทั้งภาพมิวสิกวิดีโอ ภาพคอนเสิร์ต และภาพแอบถ่ายต่างๆ ที่หลายฝ่ายออกมาจับตาให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษ ศิลปินเดี่ยวล้มเหลว ค่อนข้างจะทีความเสี่ยงสูงจากแฟนคลับของนักร้องคนนี้ไม่น้อย แต่หลังจากที่พิจารณาเหตุผลรอบด้านแล้วบันเทิง ออนไลน์หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ที่จะขอยกตำแหน่งนี้ให้กับ "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" (โดยไม่เกี่ยวกับคำทำนายของหมอ "ลักษณ์ เรขานิเทศ" ตั้งแต่เมื่อต้นปีแต่อย่างใด) เหตุผลหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นการพิจารณาจากช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมา(รวมทั้งในปีนี้) ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการออกมาของงานเพลงแต่ละชุดของเขาล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความนิยม หรือชื่อเสียงของศิลปินคนอื่นรวมไปถึงเหตุการณ์แวดล้อมมาเป็น "ตัวช่วย" ทั้งนั้น โดยเฉพาะในปีนี้ที่เจ้าตัวได้ทำตัวอย่างน่าเกลียดที่สุดด้วยการฉวยเอาช่วงระยะเวลาที่องค์พ่อหลวงของคนไทยทรงเข้ารับการถวายการรักษาอาการพระประชวรที่โรงพยาบาลศิริราชบวกกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งมาขายของของตนเองด้วยการให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ว่าจะทะเลาะกันทำไม ก่อนที่ไม่นานจะมีผลงานใหม่ของเขา "ธงไชย วิลเลจ" ออกมาวางโดยมีเพลงหนึ่งที่ชื่อว่า "เถียงกันทำไม" ซึ่งดึงเอาคู่พระนางยอดนิยมจากละคร "อุ้มรัก" อย่าง "เคน ธีรเดช - แอน ทองประสม" มาเล่นมิวสิกวิดีโอ เท่านั้นยังไม่พอ การทำอัลบั้มออกมารวดเดียวถึง 3 ชุด (ทั้งๆ ที่เพิ่งวางอัลบั้มใหม่ไปได้ไม่นาน) แถมยังเป็นการเอาเพลงเก่าที่มีทั้งเพลงไทยลูกทุ่ง เพลงสากล มาร้องกับดนตรีที่ไร้ซึ่งความปราณีต(พอๆ กับเสียงดนตรี "คาราโอเกะ") โดยอาศัยบรรยากาศความชื่นมื่นของช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นแรงเสริมยอดซื้อเช่นนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงการ "ให้คุณค่า" ต่อตนเอง และการ "ให้เกียรติ" ต่อแฟนเพลงผ่านงานที่นักร้องคนนี้ทำว่ามีมากน้อย, เป็นเพียงสินค้าหรือเป็นงานศิลป์ได้เป็นอย่างดี "ดี - เหลว" บันเทิงไทย "ปีหมา"(จบ) เป็นอีกปีหนึ่งที่ถือได้ว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในแวดวงของวงการบันเทิงบ้านเราสำหรับปีหมาดุ "บันเทิง ออนไลน์" ขอถือโอกาสช่วงเวลาของ ปี พ.ศ.2550 ที่กำลังจะมาเยือนสรุปความเป็น "ที่สุด" ในแต่ละด้านและแขนงทั้งที่เป็น "ด้านดี" และ "ด้านเหลว" ของรอบปี พ.ศ.2549 ที่กำลังจะจากไป ลองมาดูกันว่าจะตรงใจกับความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของท่านผู้อ่านมากน้อยเพียงใด ... อัลบั้มที่น่าจดจำแห่งปี สืบเนื่องจากการที่ ปี พ.ศ.2549 เป็นปีมหามงคลของคนไทยจากการที่องค์พระพ่อหลวงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี (และทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษาในปี พ.ศ.2550ที่จะถึง)รอบปีที่ผ่านมาจึงปรากฏงานเพลงจากศิลปินหลายต่อหลายคนและแขนงที่ทำออกมาเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ รวมไปถึงการเชิดชูพระปรีชาสามารถของพระองค์ในเรื่องของการดนตรี แต่ที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่งก็คืออัลบั้ม H.M. Blues : รวมเพลงพระราชนิพนธ์ ชุดอนุรักษ์" ที่มี "ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์" เป็นคนดูแลภาพรวมโดยทั้งหมด ชุดนี้มีซีดีทั้งสิ้น 4 แผ่นด้วยกัน เป็นการรวบรวมบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านในแบบฉบับของดนตรีแบบเดิมๆ ที่หลากหลายแนว ทั้ง บลูส์ ดิกซี่แลนด์ สวิง โซล มาร์ช จำนวนถึง 48 บทเพลงซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพทางด้านดนตรีของพระองค์ท่านได้เป็นอย่างดี ความจริงแล้วอัลบั้ม H.M. Blues" ยังมีอีกหนึ่งอัลบั้มชื่อว่า H.M. Blues : ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อ แต่ชุดนี้เป็นการเรียบเรียงดนตรีใหม่ ขณะที่นักร้องที่มาร้องก็เป็นนักร้องรุ่นใหม่ๆ อันเนื่องมาจากความตั้งใจดีของผู้จัดทำที่เข้าใจว่าเพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็น "ของเดิม" เป็นอาหารที่คนรุ่นใหม่เสพไม่ได้ จึงต้องทำการ "ปรุงใหม่" เสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่แม้จะมี "โอกาส" ได้ฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ก็จริง ทว่ากลับไม่สามารถ "สัมผัส" หรือ "เข้าถึง" อารมณ์ ความรู้สึกอย่างแท้จริงของพระองค์ท่าน อัลบั้มที่ไม่น่าจดจำแห่งปี อาจจะดูใจร้ายไปนิดหากเจ้าของงานชิ้นนี้เป็นชื่อของ "เบิร์ด ธงไชย" เข้ามาเกี่ยวข้องหลังเจ้าตัวรับตำแหน่งศิลปินเดี่ยวที่ล้มเหลวในรอบปีไปแล้ว แต่เมื่อบันเทิง ออนไลน์ได้พิจารณาถึงคุณภาพของงานโดยรวมของเขา อย่าง "เบิร์ด เปิดฟลอร์" แล้ว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหลีกเลี่ยงได้ยากจริงๆ หรือจะว่าไปแล้ว เป็นผลงานเพลงชุดนี้ของเขานี่แหละที่มีส่วนอย่างมากทีเดียวที่เป็นเหตุผลทำให้ "เบิร์ด ธงไชย" ต้องรับตำแหน่งศิลปินเดี่ยวที่ล้มเหลวในรอบปีจากการพิจารณาของบันเทิง ออนไลน์อย่างที่ว่า "เบิร์ด เปิดฟลอร์" เป็นการเอาเพลงเก่า ทั้งเพลงไทยสากล เพลงสากล และเพลงลูกทุ่ง มาทำดนตรีใหม่ในสไตล์ ละติน, บอลรูม ชาช่า และ ดิสโก้ รวม 3 ชุดด้วยกัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นความตั้งใจดีของตัวศิลปินหรือค่ายเพลงที่อยากจะให้เป็นของขวัญชิ้นที่สนุกสนานในช่วงปีใหม่กับแฟนเพลง แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นการ "ลดค่า" ของนักร้องคนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะมันได้ทำให้คนที่ถูกยกย่องว่าเป็นถึง "ซูเปอร์สตาร์" ไม่ต่างอะไรไปจากนักร้องที่ไม่รู้จะขายอะไรแล้ว, นักร้องที่หากินกับปริมาณมากกว่าคุณภาพ, นักร้องที่หากินกับงานเทศกาล ฯลฯ เห็นได้ชัดจากการดึงเอาหนึ่งใน 3 ที่เป็นชุดเพลง "ลูกทุ่ง" ออกมาพิจารณาโดดๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคของดนตรีที่ก๊องแก๊งมากๆ และถึงแม้จะอาศัยขายความ "คุ้นหู" ด้วยการเลือกเพลงที่เป็นเพลง(ดัง)เดิมๆ พยายามจับตลาดคนฟังประเภท "แม่ยก" ให้ได้วงกว้างที่สุด แต่ก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ ไม่มีการสร้างสรรค์ ซ้ำร้ายภาพรวมยังดูแล้วแย่กว่าของนักร้องคนอื่นๆ ที่ทำออกมามากมายก่อนหน้านี้เสียอีก ... ดาราชายประสบความสำเร็จ ปีนี้ต้องบอกว่าถือเป็นปีทองของ "เคน ธีรเดช" โดยแท้จริง เพราะตั้งแต่ละคร อุ้มรัก ออกอากาศไป กระแสคลั่งไคล้เคนก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ ภาพผู้ชายอบอุ่น แสนดีติดตรึงอยู่ในห้วงความทรงจำของสาวไทยค่อนประเทศ เรตติ้งของละครก็พุ่งพรวดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน เมื่อละครจบความแรงของหนุ่มเคนก็ยังไม่จบ ภาพชายหนุ่มทะเล้นขี้เล่น อารมณ์ดีติดฝังอยู่ในตัวเคนไปทุกหนแห่ง ทั้งงานถ่ายแบบ ถ่ายมิวสิกวิดีโอ ฯลฯ บวกกับที่เจ้าตัวแทบจะไม่มีข่าวฉาวๆ ข่าวคาวโลกีย์ใดๆ ความรักที่มีอยู่ก็มั่นคงหนักแน่น ไม่โลเล (แถมยังมีเรื่องให้ชวนน่าเห็นใจเพราะถูกขโมยขึ้นบ้านส่งท้ายเป็นการฟาดเคราะห์ปลายปีอีกต่างหาก) ซึ่งด้วยอานิสงส์ต่างๆ เหล่านี้เองที่ส่งผลให้หนุ่ม "เคน" กลายเป็นดาราชายที่ประสบความสำเร็จที่สุดในรอบปีในสายตาของบันเทิง ออนไลน์แบบไม่ค่อยจะมีคู่แข่ง ดาราชายประสบความล้มเหลว แม้เรื่องของ "การงาน" จะไม่มีปัญหา แต่เพราะภาพลักษณ์และกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของพฤติกรรมที่ค่อนข้างเป็นไปในทางลบนั่นเองที่เราต้องตัดสินใจยกตำแหน่งนี้ให้กับพระเอกหนุ่ม "ชาคริต แย้มนาม" ที่ผ่านมาในเจ้าตัวจัดได้ว่าเป็นคนที่ค่อยๆ กลมกลืนไปกับภาพของหนุ่มแบดบอยทีละเล็ก ทีละน้อย จากข่าวในเรื่องของความรักกับผู้หญิงทั้งในและนอกวงการไม่วายเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้เรื่องราวดั่งกับนิยายรักหักมุมที่จบลงด้วยความเจ็บปวดของเขากับนักแสดงสาวนิสัยดี "จั๊กจั่น" นั้นค่อนข้างจะทำคะแนนบวกให้กับด้านลบของเขาได้อีกเยอะทีเดียว ... ดาราหญิง ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนางเอกคู่กับหนุ่มเคนจากละคร "อุ้มรัก" อย่าง "แอน ทองประสม นั่นเอง นอกจากจะเป็นเพราะกระแสของละครเรื่องที่ว่าแล้ว ทั้งเรื่องของคุณสมบัติที่เป็นรูปร่าง หน้าตา การวางตัว การให้สัมภาษณ์ นิสัย ภาพลักษณ์ที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยของนางเอกสาวคนนี้นั่นเองที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวรับตำแหน่งนี้ไปครอง โดยหลังจากที่ตำแหน่งฉายา "เจ้าหญิงวงการบันเทิง" ของบ้านเราที่บรรดานักข่าวตั้งขึ้นมาว่างลงเป็นระยะเวลาร่วมปีกว่าเพราะเจ้าของตำแหน่งเดิมหันไปรับฉายา "เบนโล" แทน คงมีน้อยคนอย่างแน่นอนที่จะคัดค้านหากจะมีการยกตำแหน่งที่ว่านี้ให้กับสาว "แอน ทองประสม" คนนี้ ดาราหญิงประสบความล้มเหลว แม้จะถูกมองว่าเป็นคนที่เชื่อถือได้ยากในคำพูดคำจานับตั้งแต่การออกมาแถลงข่าวเรื่องการตั้งท้อง ไปคลอดลูกที่เมืองนอก กระทั่งกลับมาที่ประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าชื่อของ "แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช" น่าจะยังเป็นอะไรที่ "ขายได้" อยู่บนเหตุผลของนิสัยที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจของคนไทยและพฤติกรรมที่จะไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมคนที่กำลังล้มอยู่ ทว่าเอาเข้าจริงๆ ความคิดดังกล่าวจะค่อนข้างเป็นอะไรที่ผิดไปจากความเป็นจริงเยอะทีเดียว เมื่อพิจารณาจากเสียงตอบรับต่องานที่เธอทำอย่างเป็นทางการในการกลับคืนวงการบันเทิงอย่างรายการ "คัทลียา" ที่ไม่ดีเอาเสียเลยจนต้องถูกถอดจากผัฝ ซึ่งเหตุผลหลักแม้ส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นเพราะการลงโทษจากสังคมต่อพฤติกรรมที่ส่อไปในทางไม่มีความจริงใจของเธอแล้ว ตัวเนื้องานที่ออกมาก็ดูจะมีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงจะต้องมาดูกันว่าในปี พ.ศ.2550 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาของการคืนวงการอย่างเต็มตัวด้วยการประเดิมละครให้กับทางค่ายเอ็กแซ็กท์ของเธอคนนี้จะออกมาในอีกหรอบใดกันแน่? ... โฆษณายอดฮิต ตีคู่กันมา 2 ชิ้นยอดฮิต ระหว่างไทยประกันชีวิตชุด ลูกท้อง กับการรณรงค์ "เลิกเหล้า เลิกจน" ของ สสส. แต่เมื่อพิจารณาแล้วบันเทิง ออนไลน์ขอยกให้กับชุด "ลูกท้อง" ซึ่งแม้จะมีบางส่วนมองว่าค่อนข้างจะยัดเยียดความฟูมฟายไปสักนิด ทว่าอารมณ์และบรรยากาศที่ออกมาต้องบอกว่าสังคมน่าจะได้ประโยชน์อะไรไปจากโฆษณาชิ้นนี้ไปไม่น้อย ผิดกับโฆษณาของทาง สสส.ที่มีประโยคฮิตติดปากว่า "จน เครียด...กินเหล้า" ที่หลายคนดูแล้วบอกว่า น่าจะมีผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกันข้ามไปกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน โฆษณายอดห่วย โค้ก(แจกโทรศัพท์มือถือ) ซึ่งต้องบอกว่าน่าเสียดายในวัตถุดิบเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัวของสินค้าเอง รวมไปถึงพรีเซ็นเตอร์รุ่นใหม่วัยใส หนุ่ม บอล" กับสาว "ต่าย" ซึ่งกำลังโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง "Season Change : เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย" เพราะถึงแม้โฆษณาชิ้นนี้จะดูแล้วเข้าใจใน "เจตนา" และ "ความหมาย" ของผู้ผลิต แต่ในรายละเอียดของเนื้องานที่ออกมานั้นดูหน่อมแน้มเอามากๆ ไม่นับรวมไปถึงเสียงวิจารณ์แบบบ่นด่าของคนที่ค่อนข้างจริงจังกับความมีเหตุมีผลที่เป็นจริงหลังพิจารณาจากเรื่องราวที่ออกมาระหว่างสถานที่กับพฤติกรรมของตัวละครในงานโฆษณาชิ้นนี้ ... ช่องโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องแรกๆ ที่ริเริ่มรายการข่าวรูปแบบใหม่ จนช่องอื่นๆ หันมาเอาอย่างไปแล้ว ในรอบปีที่ผ่านมาช่อง 3 ก็จัดระบบต่างๆ เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น ทั้งลดเวลารายการข่าวที่มีมากเกินไป เพิ่มรายการที่มีเนื้อหาสาระสำหรับครอบครัวในช่วงหกโมงเข้ามา ประกอบกับละครในช่วงไพร์มไทม์ที่จะเรียกได้ว่า น้ำเสียน้อยที่สุด ถ้าเทียบกับละครช่วงเดียวกันของช่องอื่นๆ ประกอบกับรายการในช่วงสี่ทุ่มที่เนื้อหารายการค่อนข้างจะมีความแปลกใหม่ไปกว่ารายการวาไรตี้ซ้ำซ้อน เช่น รายการอัจฉริยะข้ามคืน ที่มุ่งเน้นเรื่องรอยหยักในสมองมากกว่ารายการเกมโชว์ทั่วไป ช่องโทรทัศน์ที่ประสบความล้มเหลว ขอยกให้กับ 2 ช่องทีวี(มหาชน)ระหว่าง "ไอทีวี" และ "โมเดิร์นไนน์ ทีวี" ถึงแม้ในปี 2549 ที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับทีวีทั้งสองช่องในรายละเอียดและเงื่อนไขที่อาจจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ทว่าสิ่งที่คนในองค์กรทั้งสองแห่งบางส่วนได้แสดงออกมานั้นเหมือนกันเปี๊ยบ และเป็นการกระทำที่ทำให้องค์กรของตนเองสุ้มเสี่ยงเหลือเกินกับการถูกคนในสังคมส่วนใหญ่พิจารณาตัดสินว่า ทีวีทั้งสองช่องนี้มองเห็นผลประโยชน์ของตนเองโดยสะกดคำว่า เพื่อส่วนรวม ไม่เป็นไปเสียแล้ว เป็นภาพสะท้อนโดยรวมแบบกว้างๆ ปีหน้าฟ้าใหม่ปีหมูไฟค่อยกลับมาว่ากันอีกที ข่าว "หยาด" สู้รถถัง ยันไม่เลิก "โอ๊ค" ถึงจะไม่ใช่ลูกนายกแล้วก็ตาม (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง) นึกว่าปิดฉากรักอวสานไปพร้อมๆ กับอดีตนายกรัฐมนตรี พตท.ทักษิณ ชินวัตร ซะแล้ว เพราะข่าวว่าหลังเกิดจากเกิดรัฐประหาร "หยาดทิพย์ ราชปาล" แฟนคนล่าสุดอดีตลูกชายนายกฯ "โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร" ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ จนใครๆ คิดว่า การเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบกับความรักของหยาดไม่มากก็น้อยประมาณว่า รักแท้แพ้รถถังอย่างไรอย่างนั้น หลังจากตามตัวหยาดอยู่หลายวัน ในที่สุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดเผยกลางกองถ่าย "รังนกบนปลายไม้" โดยยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเพื่อนชายคนสนิทอดีตลูกนายกฯ คนนี้แต่อย่างไร "บางเรื่องหยาดพูดไม่ได้ ณ ตอนนี้ ส่วนเพื่อนพี่โอ็คหยาดเองก็ไม่ค่อยได้เจอเพราะหยาดอยู่กองถ่ายทั้งวันเลย ข่าวที่ว่าหยาดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนๆ พี่โอ๊คแล้วร้องไห้ไม่จริงเลยข่าวมั่วจะตาย ข่าวออกมาเยอะมากก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีแล้ว" "จริงๆ อยากบอกว่าไม่อยากพูดอะไรเลย เพราะมันไม่เกี่ยวกับหยาดเป็นเรื่องของบ้านเมือง วันนี้บอกทางพี่ประชาสัมพันธ์กองถ่ายไปแล้วไม่ให้สัมภาษณ์ แต่เห็นพี่ๆ นักข่าวมากันเยอะเลยเกรงใจ ตอนนี้ก็ให้กำลังใจเขาค่ะ ส่วนเรื่องโทรศัพท์คุยกันอันนี้ขออนุญาตไม่ตอบ แต่ก็ยังมีคุยกันตามปกติ แต่ตอบอะไรมากไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องความปลอดภัยของพี่โอ๊คแล้วก็ครอบครัวเขาด้วย" "สิ่งที่หยาดบอกได้ตอนนี้ก็คือ ยังคบกันอยู่เหมือนเดิม อย่างที่บอกมันไม่ใช่เรื่องของหยาด และหยาดก็พร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ แต่อย่าถามว่าคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ไม่ตอบแล้ว ข่าวในอินเทอร์เนตที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้กันเยอะหยาดไม่ได้สนใจเท่าไหร่ หยาดเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้จะว่าไปแล้วมันก็มีผลกระทบกับทุกคน แล้วที่หยาดคบกับพี่โอ๊คก็เห็นว่าเขาเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ลูกนายกฯ" "มันอึดอัดนะที่จะมานั่งตอบคำถามพวกนี้ ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะพูดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ได้อยากเป็นสะใภ้นายกอย่างที่คนเขาพูดกัน รู้สึกไม่ดีกับคำๆ นี้มาก เบื่อมากพี่โอ๊คเป็นแค่คนธรรมดานะคะในสายตาหยาด แล้วไอ้ที่มีข่าวว่าหยาดแพ้ รถถัง ลูกปืนอะไรทั้งหมดไม่เกี่ยว แต่ก็เป็นห่วงพี่โอ๊คและที่บ้านเขา ให้กำลังใจมากกว่าค่ะตอนนี้" "เอาเป็นว่าหยาดคบกับพี่โอ๊คทุกวันนี้เพราะเขาเป็นพี่โอ๊คไม่ใช่ในฐานะลูกนายก แล้วหยาดเองก็ห่วงครอบครัวเขาเรื่องความปลอดภัยถ้าจะพูดอะไรมากไปคงไม่ดี คนชอบพูดว่าหยาดเป็นสะใภ้นายกฯ มันไม่ใช่ ถ้าไม่อย่างนั้นนายกฯ คนไหนมีลูกชายหยาดก็คงวิ่งเข้าไปหานานแล้ว" "สรุปตอนนี้ยังโอเคอยู่น่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าพอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะทำให้เราเลิกกัน คนเราจะคบกันไม่ใช่ว่าด้วยฐานะหรืออะไร แล้วหยาดเองก็ยังเด็ก เพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก เรายังเหมือนเดิมกันอยู่แล้ว เหตุการณ์ตรงนี้ไม่ทำให้เลิกกันหรอกค่ะ ถ้าจะเลิกก็คงไม่ใช่เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า แต่จะเป็นเรื่องที่พี่โอ๊คเจ้าชู้หรือไม่นั้น ตอนนี้หยาดยังไม่เห็นว่าเขาจะเป็นแบบนั้น เขาก็ยังดีกับหยาดตลอด ยังมีเราคนเดียว" ชี้อาการ "ดี๋" เสี่ยงสูงทั้งเสียชีวิต - อัมพฤกษ์ "บีม" เชื่อพ่อต้องรอด (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง) "ครอบครัวและดู๋ ดอกสะเดา ร่วมกันแถลงข่าว" หามตลก "ดี๋ ดอกมะดัน" เข้าห้องไอซียู หลังอาการหอบกำเริบอย่างหนัก แพทย์ชี้ 2 อาทิตย์ไม่มีปฏิกิริยาโอกาสรอดยากแถมยังเสี่ยงเป็นเจ้าชายนินทรา - อัมพฤกษ์สูง ลูกน้องคนสนิทเผยตลกดังช็อกขณะที่บุหรี่ยังคาปาก ด้านที่ลูกสาว "บีม พรรณวรินทร์" เชื่อพ่อต้องกลับมาเป็นครั้งที่สอง โรคหอบกำเริบขึ้นอีกครั้งสำหรับอดีตตลกชื่อดัง "ดี๋ ดอกมะดัน" (ศุภกรณ์ ศรีสวัสดิ์) ที่เกิดอาการชักอย่างกะทันหันจนต้องถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลพระรามเก้าเป็นการด่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (14) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้เจ้าตัวยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูอยู่ โดยลูกน้องคนสนิท "ทองคำ อินทรสุนทร" ฉายา "สรพงศ์ ตีสิบ" เผยนาทีระทึกตลกชื่อดังช็อกขณะที่บุหรี่ยังคาอยู่ในปาก เชื่อคงเครียดเรื่องปัญหาทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้น "ผมว่าพี่ดี๋คงเครียดเรื่องเงิน งานก็ลดน้อยลงในช่วงนี้ ลงส.ก.ที่ผ่านมาก็ต้องใช้เงินเยอดะหมดไปเป็นล้าน ทำธุรกิจบางทีก็ขาดทุน อย่างล่าสุดไปลงทุนทำเหมืองแร่ที่นครพนมก็หมดไปหลายล้านเหมือนกัน อีกอย่างเขามีโรคประจำตัวด้วย หลังจากที่พ่นยาแก้หอบหืดเสร็จ เขาก็สูบบุหรี่ สามมวนติดต่อกันซึ่งหมอห้ามสูบมันอันตราย มวนสุดท้ายยังคาปากอยู่เลย ชักที่ไนท์แมนชั่นแถวห้วยขวางที่พักเขา ผมกับน้ากล้วยลูกน้องเขาอีกคนช่วยกันบล็อกพามาส่งโรงพยาบาล" "ตอนเดินทางมาใช้เวลาประมาณ 50 นาทีหัวใจพี่ดี๋หยุดเต้นไป 20 นาที คือก่อนนั้นพี่ดี๋ก็บอกว่าให้รีบพามา โรงพยาบาลเร็วๆ ไม่ไหวแล้วหายใจไม่ออกจะตายแล้ว คือตอนนั้นเหมือนเขากำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ พอถึงโรงพยาบาลก็ตัวเขียว มือเขียวหมดเลย หมอต้องช่วยกับปั๊มหัวใจ" ทั้งนี้ภายหลังจากการรักษาเป็นการด่วนนายแพทย์ "อาทิตย์ เจียรนัยศิลาวงศ์" ผู้ช่วยผู้อำนายการโรงพยาบาลพระรามเก้าได้เปิดเผยในเบื้องต้นว่าอาการของตลกชื่อดังนั้นค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงเนื่องจากสมองขาดออกซิเจนไปนานและหากภายใน 2 อาทิตย์อาการไม่ดีขึ้นโอกาสที่จะเสียชีวิตก็มีสูง "คุณดี๋มาโรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ประมาณ 8 โมงกว่า เป็นหอบหืดหายใจไม่ออก เขาหยุดหายใจไปประมาณ 20 นาที ซึ่งเวลาที่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลใช้เวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 50 นาทีตามที่ญาติคนไข้บอกก็มีผลกับการรักษาเหมือนกัน ขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ทางโรงพยาบาลต้องใช้ยาช่วยรักษา ทางแพทย์ก็ช่วยกันปั๊มหัวใจ" "ตอนนี้เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าจะหายเป็นปกติหรือเปล่า ต้องดูว่าอัตราการชักเป็นยังไงโดยสรุปคือยังไม่พ้นขีดอันตราย รอดู 3วันถ้าตอบสนองได้ดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหลังจาก 2 อาทิตย์ไปอาการยังไม่ดีขึ้นผมคิดว่าไม่น่าจะรอด" เผยอาการเมื่อเทียบกับนักร้องเจ้าของฉายา "แมวเก้าชีวิต" อย่าง "ดอน สอนระเบียบ" นั้นของตลกดังมีอาการหนักกว่าเยอะ และมีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมากที่จะมีอาการของเจ้าชายนิทรารวมถึงการเป็นอัมพฤกษ์ "เทียบกับคุณดอน สอนระเบียบ คงหนักกว่าเยอะ อันนี้เขาขาดออกซิเจนหายใจ น่าเป็นกังวลเรื่องสมอง ตอนนี้ก็พยายามให้ยาขยายหลอดลมแต่ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงในการที่จะเป็นอัมพฤกษ์ เป็นเจ้าชายนิทรา อาการล่าสุดตอนนี้ก็ให้กินยาแก้ชัก ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนกลัวการติดเชื้อ ให้ยากดไม่ให้ชักทางสายยางโดยการฉีดเข้าไป ให้น้ำเกลือ เรื่องสมองเราต้องรอดูก่อนว่าจะกลับคืนมาได้กี่เปอร์เซ็นต์" ด้านลูกสาวของตลกดัง "บีม พรรณวรินทร์" เปิดเผยว่าที่ผ่านมาตนเองได้เตือนพ่อหลายครั้งแล้วในเรื่องการสูบบุหรี่ "เรื่องเงินเรื่องนั้นไม่น่าเกี่ยว เพราะพ่อเขามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว และสูบบุหรี่จัดด้วยคงไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะมีปัญหาอะไรก็ยังปรึกษา คือช่วยกันมาตลอด ที่ผ่านมาบีมก็เตือนพ่อมาตลอดว่าไม่อยากให้สูบบุหรี่เยอะ" "พอเป็นตอนแรกรู้สึกอีกแล้วเหรอมันห่างจากครั้งที่แล้วปีกับแค่ 2 - 3เดือนเองเป็นอีกแล้วเหรอ เหมือนกลับมาพบกับความรู้สึกเดิมๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อยากให้เขาพ้นขีดอันตราย ซึ่งครั้งนี้ที่พ่อขาดออกซิเจนหยุดหายใจไปนานกว่า 20 นาที ครั้งที่แล้วแค่ 5 นาที คุณหมอบอกว่ามันอันตรายมาก บีมก็ได้แต่หวังว่าคุณพ่อคงไม่เป็นเจ้าชายนินทรา อยากให้อาการชักหายไป" ส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วนั้นเจ้าตัวบอกว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่ต้องคิด ขอยื้อชีวิตพ่อให้ถึงที่สุดก่อน พร้อมแสดงความมั่นใจผู้บังเกิดเกล้าต้องไม่เป็นอะไร "อย่างเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนั้นเลยค่ะ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือรักษาพ่อให้ดีที่สุดก่อนเพื่อให้พ้นขีดอันตราย พ่อเขาจะแขวนหลวงปู่ทวดที่เขานับถือไว้ที่คอตลอด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเปิดดูที่ตัวคุณพ่อ หมอห่มผ้าปิดหมด โดนตัวไม่ได้เขาจะชัก บีมเชื่อว่าคุณพ่อคงต้องฟื้นขึ้นมาอยู่แล้วแต่ต้องรอดูอาการหลังจากฟื้นด้วยว่าจะเป็นอย่างไร คุณพ่อเขาเคยไปแล้วครั้งหนึ่งแล้วก็ฟื้นกลับมาอีก บีมเชื่อว่าครั้งที่สองก็ต้องเป็นแบบนั้นค่ะ" |
บุคคลอ้างอิง : | สมาชิกเท่านั้น |
Power By www.thaieasyjob.com |
เก็บประวัติไว้ในระบบ | พิมพ์ |
|
ผู้หางาน งานราชการ หางาน สมัครงาน ฝากประวัติ เข้าระบบ แก้ไขเรซูเม่ ลืมรหัสผ่าน Sitemap |
บริษัทหาประวัติ ประกาศงาน บริษัทลงทะเบียน บริษัทเข้าระบบ ประกาศงาน ค้นหาประวัติ อัตราโฆษณา การชำระค่าโฆษณา |
ติดต่อ ThaiEasyJob.com โทร : อีเมล์ : webmaster@thaieasyjob.com |
© copyright 2004-2025 All right reserved. Contact us : webmaster@thaieasyjob.com | ข้อตกลงการใช้บริการ |